วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ใครสนใจกลอนบ้างนะ

  • โอ๊ย! อยากจะkiss ..
แต่ติดที่จมูกมานไม่ถึง ..
เธอก้อนะ.. ช่วยยื่นแก้มมานิสนึง..
ก็เอาแค่พอ kiss-ถึง กัน ..

  • มั่นใจในฉันสิ เชื่อในฉันสิ
เชื่อสิฉันรักเธอ มั่นใจสิไม่ทิ้งเธอหรอก
มั่นใจไหมว่าฉันไม่หลอก
เชื่อแล้ว บอกทีซิ เธอรักฉัน


วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การดูแลสุขภาพ

โดยธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อเกิดปัญหาต่างๆ ขึ้น ในชีวิต ก็จะพยายามหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เป็นอันดับแรก เมื่อรู้ว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาได้เอง ก็จะแสวงหาความช่วยเหลือจากผู้อื่น ในเรื่องความเจ็บป่วย หรือปัญหาสุขภาพก็เช่นเดียวกัน ทุกคนต้องการที่จะดูแลตนเอง ให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ ดังนั้น กล่าวได้ว่า "การดูแลสุขภาพตนเอง เป็นกิจกรรมที่บุคคลแต่ละคนปฏิบัติ และยึดเป็นแบบแผนในการปฏิบัติ เพื่อให้มีสุขภาพดี" อาจแบ่งขอบเขตการดูแลสุขภาพตนเอง เป็น 2 ลักษณะคือ
การดูแลสุขภาพตนเองในสภาวะปกติ เป็นการดูแลสุขภาพตนเอง และสมาชิกในครอบครัว ให้มีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์อยู่เสมอ ได้แก่
การดูแลส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข เช่น การออกกำลังกาย การสร้างสุขวิทยาส่วนบุคคลที่ดี ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงจากสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
การป้องกันโรค เพื่อไม่ให้เจ็บป่วยเป็นโรค เช่น การไปรับภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ การไปตรวจสุขภาพ การป้องกันตนเองไม่ให้ติดโรค การดูแลสุขภาพตนเองเมื่อเจ็บป่วย ได้แก่ การขอคำแนะนำ แสวงหาวามรู้จากผู้รู้ เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขต่างๆ ในชุมชน บุคลากรสาธารณสุข เพื่อให้ได้แนวทางปฏิบัติ หรือการรักษาเบื้องต้นให้หาย จากความเจ็บป่วย ประเมินตนเองได้ว่า เมื่อไรควรไปพบแพทย์ เพื่อรักษาก่อนที่จะเจ็บป่วยรุนแรง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หรือบุคลากรสาธารณสุข เพื่อบรรเทาความเจ็บป่วย และมีสุขภาพดีดังเดิม การที่ประชาชนทั่วไปสามารถดูแลสุขภาพตนเองได้นั้น จำเป็นต้องมีความรู้ ึความเข้าใจในเรื่อง การดูแลสุขภาพ ตั้งแต่ยังไม่เจ็บป่วย เพื่อบำรุงรักษาตนเอง ให้สมบูรณ์แข็งแรง รู้จักที่จะป้องกันตัวเอง มิให้เกิดโรค และเมื่อเจ็บป่วยก็รู้วิธีที่จะรักษาตัวเอง เบื้องต้นจนหายเป็นปกติ หรือรู้ว่า เมื่อไรต้องไปพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การแต่งหน้าแบบธรรมชาติ
คือ การแต่งหน้าในแบบที่แต่งหน้าแล้วแต่ดูสวยใสราวกับไม่ได้แต่งหน้า ซ้ำยังสามารถปกปิดจุดด้อย และเสริมสร้างจุดเด่นบนใบหน้าให้สวยขึ้นได้อีก การแต่งหน้าสไตล์ Natural Make-up นั้น การลงรองพื้น และการเขียนคิ้ว ถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ถ้าเราลงรองพื้นและเขียนคิ้วเสร็จแล้ว ถือได้ว่าเราแต่งหน้าเสร็จไปแล้ว 70% โดยเลือกตามสีผิวของเราเอง และลงรองพื้นให้เบาบางที่สุด และใช้คอนซิลเลอร์ปกปิด สิว ฝ้า กระ รอยจุดด่างดำ แผลเป็น เท่านั้น จะทำให้หน้าดูเบาบาง

ส่วนการเขียนคิ้ว นิยมเขียนคิ้วตามรูปคิ้วจริง ควรใช้ดินสอเขียนคิ้ว (Ebony Pencil) สกรูว์บรัช, และ แชโดว์บรัช ในการเขียนคิ้ว เพื่อจะทำให้คิ้วออกมาดูเป็นธรรมชาติ เวลาเขียนคิ้วพยายามอย่าให้โหนกคิ้วสูงจนเกินไป ทำให้รู้สึกนุ่มมากที่สุด การทาอายแชโดว์ ให้ใช้สีชมพูเป็นพอยต์ (Point) เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่สว่างและเพิ่มส่วนที่เป็นไฮไลต์ โดยใช้แชโดว์ที่เป็นมุกจะให้ความรู้สึกที่ดูใส สว่าง เขียนขอบตาเฉพาะขอบตาบน นิยมใช้สีพาสเทล บลัชออน

การปัดแก้มควรใช้บลัชออนสีชมพูที่เป็นธรรมชาติปัดบนส่วนที่เป็นโหนกแก้ม (โดยลองยิ้มดูแล้วปัดตรงส่วนที่นูนขึ้นมามากที่สุด) แต่อย่าทามากเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกไม่เป็นธรรมชาติ

ลิปสติก ไม่เน้นขอบปากมาก ทาลิปโทนสีแดงทาแค่ปากด้านในเท่านั้น และให้ใช้ลิปกลอสทาริมฝีปากด้านนอกให้ดูเป็นธรรมชาติ

5 เทคนิคผมสวย

5 เทคนิคดูแลผมสวย ก่อนที่ผมจะเสียมาฝากกันค่ะ

1. การแปรงผม

ก่อนสระผมทุกครั้ง ควรแปรงขจัดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนเส้นผม และสางเส้นผมที่พันกันออก แต่อย่าแปรงมากเกินไป เพราะอาจะทำให้เส้นผมของคุณหักขาดและเสียได้

2. นวดหนังศีรษะ

เพื่อกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดของหนังศรีษะ และทำให้เส้นผมแข็งแรง

- การนวดคลึงหนังศีรษะด้วยอุ้งนิ้ว ในลักษณะเคลื่อนไปมาบนหนังศีรษะจากด้านล่างขึ้นไป

- การกดหนังศีรษะ กดเป็นจังหวะโดยใช้อุ้งนิ้ว ค่อยๆ กดแล้วคลายออก ทำซ้ำๆ เบาๆ โดยไม่ให้เล็บจิกหนังศีรษะ เพราะจะเป็นการทำลายรากผม

- การเคาะ ค่อยๆ เคาะอุ้งนิ้วลงบนกระหม่อมช้าๆ เป็นจังหวะอย่างเบามือและทุบเบาๆ ให้ทั่วหนังศีรษะ

3. เพิ่มความเงางามด้วยน้ำส้มสายชู

หลังการสระผมทุกครั้ง ใช้น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำอุ่น3 แก้ว แล้วราดบนเส้นผมของคุณ ใช้หวีสางผมให้ทั่วๆ ล้างอีกทีด้วยน้ำอุ่น ตามด้วยการใช้น้ำส้มสายชูล้างเส้นผมเป็นน้ำสุดท้าย นอกจากจะเพิ่มความเงางามให้เส้นผมแล้ว ยังแก้ปัญหาผมพันกันได้

4. ล้างด้วยน้ำเย็น

น้ำร้อนทำให้ต่อมรากผมเปิดขยายและสูญเสียน้ำตามธรรมชาติไป ทำให้ผิวผมแห้งหยาบ ดูไม่มีชีวิตชีวา แต่การใช้น้ำเย็นล้างผมจะดีกว่า เพราะความเย็นของน้ำจะช่วยทำให้ต่อมรากผมปิดตัว และช่วยให้เส้นผมของคุณเงางาม

5. ซับเบาๆ

อย่าใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมแรงๆ เพราะผ้าขนหนูจะขโมยความชุ่มชื้นและทำลายความยืดหยุ่นของผมคุณ แต่ให้ใช้ปลายนิ้วบีบน้ำบนเส้นผมออก แล้วใช้ผ้าขนหนูซับเบาๆ และปล่อยให้เส้นผมแห้งตามธรรมชาติ วิธีนี้จะช่วยเก็กกับความชุ่มชื้นบนเส้นผมไว้ได้

ที่สำคัญนะคะ อย่าลืมดูแลบำรุงผมจากภายใน ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และทำจิตใจให้สดใสร่าเริง เพื่อเส้นผมที่เงางามของคุณค่ะ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีเส้นผมที่สวย สะอาด เงางามแล้วนะคะ